จากเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นก็ผ่านไปหลายเดือน จำนวนอาสาสมัครที่ช่วยเหลือในพื้นที่เกิดเหตุนั้นก็ลดลงอย่างรวดเร็ว จำนวนทั้งหมดของอาสาสมัครที่ปฏิบัติงานที่ 3จังหวัด คืออิวาเตะ มิยางิ และฟุคุชิมะ ในช่วงวันหยุดติดต่อกันวันที่ 2-8 เดือนพฤษภาคม มีจำนวน54,100คน ซึ่งปัจจุบันลดลงไป 30,000คนภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่ละองค์กรกระตือรือร้นในการปรับสภาพแวดล้อมเพื่อคนที่อยากจะทำอาสาสมัครให้ไปที่เกิดเหตุได้ง่าย เพราะอาสาสมัครยังจำเป็นอยู่
การประชุมสวัสดิการสังคม,บริษัทจัดทัวร์,บริษัทรถเมล์ ทยอยจัดแผนการท่องเที่ยวไปที่เกิดเหตุภัยพิบัติ ซึ่งร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นผลักดันในการเปิดตัว "อาสาสมัครทัวร์"อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นชุดการท่องเที่ยวและอาสาสมัคร
เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ไปเห็นภายในของฮิคาริเอะซึ่งฃกำลังดำเนินการก่อสร้าง ขึ้นไปที่ชั้น13ด้วยลิฟต์สำหรับก่อสร้าง ได้ทัศนศึกษาโรงละครขนาดใหญ่ซึ่งจุที่นั่งสองแสนที่นั่งที่กำลังก่อสร้างไปอย่างราบรื่น เมื่อมองออกไปด้านนอกก็จะเห็นรถบัสโดยสารในเมืองและรถไฟใต้ดินโตเกียวสายกินซ่ากำลังวิ่ง และผู้คนกำลังเดินขวักไขว่กันไปสู่จุดหมายต่างๆ... ทางเข้าทิศตะวันออกที่มีความตราตรึงในใจในแบบที่ดูสงบเมื่อเทียบกับทางเข้าทิศตะวันตกนั้นมีการกระแสคนแบบไหนที่เกิดขึ้นกันนะ และตั้งแต่การปิดทำการหนึ่งวันของอาคารวัฒนธรรม เพื่อแยกชิ้นส่วนเมื่อปี2003 ซึ่งได้ฝังกลบความว่างเปล่านั้นเป็นเรื่องที่น่าดีใจยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
ตัวอย่างเช่น อาสาสมัครของJTB・รถบัสที่สนับสนุน・แผนการ คือแพคเก็ตทัวร์ 3วัน 1คืน เป็นเซตแช่น้ำพุร้อน และเป็นอาสาสมัครที่จังหวัดมิยางิ ราคา 17,600เยน(6,500บาท)－20,600เยน(9,600บาท) การพักที่บ่อน้ำพุร้อนอะกิอุ มีอาหารมื้อพิเศษ
นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก จัดทัวร์ชุดอาสาสมัครที่ว่า "เมืองที่มีแต่ความสุข"ที่เมืองมินามิซังริคุ จังหวัดมิยางิ เมืองที่มีแต่ความสุข หมายความว่า ตลาดที่รวบรวมสินค้าเฉพาะภูมิภาคของทั้งประเทศมาขาย เพื่อฟื้นฟูเมืองหลังจากเกิดภัยพิบัติ คอนเสริต์และงานอีเวนต์ต่างๆ ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ทัวร์นี้ 3วัน1คืน ราคา 24,800เยน(9,200บาท) ซึ่งรวมเงินบริจาค 5,000เยน (1,850บาท)ด้วย ออกเดินทางจากโตเกียวด้วยรถบัสตอนกลางดึกของวันเสาร์ วันอาทิตย์ทำงานในฐานะอาสามัครช่วยเหลือการจัดการของเมืองที่มีแต่ความสุข หลังจากนั้น ซื้อของในเมือง แล้วออกจากที่นั่นในคืนวันอาทิตย์ กลับมาถึงโตเกียวตอนเช้าวันจันทร์
เหล่านี้เป็นแค่หนึ่งตัวอย่าง ยังมีทัวร์อื่นๆ มากมายกำลังวางแผน เช่น ทัวร์ที่การประชุมสวัสดิการของแต่ละพื้นที่กำหนด ทัวร์อาสาสมัครได้รับความนิยม กรณีที่นั่งเต็มก็มีมาก
ภัยพิบัติญี่ปุ่นฝั่งตะวันออก เฉพาะแค่ขนาดใหญ่เท่านั้น อาสาสมัครจำนวนไม่น้อยรู้สึกกังวลกับวิธีการขนย้าย กิจกรรมภายในที่เกิดเหตุ การค้างคืน หรืออาหาร ทัวร์อาสาสมัครจึงบรรเทาความกังวลนั้นได้ ในความเป็นจริง 80-90%ของผู้เข้าร่วม 1คนที่เข้าร่วมอยู่ คุณยามามูระ มิกิ เข้าร่วมทัวร์อาสาสมัครของนักท่องเที่ยวฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น บอกว่า "ข้อมูลน้อยเกินไปกว่าที่จะทำอะไรสักอย่างด้วยตัวคนเดียว และก็มีความกังวลด้วย ครั้งแรกเมื่อเข้ามาที่เกิดเหตุ คิดว่าจะขอยืมความสามารถของผู้เชี่ยวชาญ"
แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ยังเหลือความยากให้กับฝ่ายสนับสนุนทัวร์อาสาสมัคร การส่งอาสาสมัครมือใหม่เข้าไปที่สถานที่ที่เกิดเหตุซึ่งเรียกว่า "ทัวร์"เป็นเรื่องดีแล้วหรือ? ความคิดเห็นด้านลบที่บอกว่า"ถ้ามีสถานที่ให้อาสาสมัครค้างคืน ก็ควรจะให้ผู้ประสบภัยได้ค้างคืน" "แม้ว่าจะมาเพราะอารมณ์มาเที่ยวแต่คนในพื้นที่ที่ลำบาก"ก็มี
แต่ในสถานที่เกิดเหตุ เสียงเรียกร้องอย่างหนักจากศูนย์อาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมืองมินามิซันริคุกล่าวว่า "จำนวนอาสาสมัครในปัจจุบันก็มีไม่พออย่างมาก งานช่วยเหลือก็ไม่จบ" ดังนั้นผู้สนับสนุนของแต่ละบริษัทจึงเข้ามาหลายครั้ง และตัดสินใจจัดตั้งทัวร์อาสาสมัครขึ้นมา หลังจากเข้าใจความต้องการในที่เกิดเหตุอย่างชัดเจนแล้ว "จากที่เกิดเหตุก็มีเสียงบอกว่า "อยากจะให้เข้าร่วมโดยไม่คิดว่าเป็นเรื่องสบายๆ บอกว่าไม่ใช่แค่ได้รับเงินบริจาค อยากให้ทำกิจกรรมที่คำนึงถึงความสัมพันธ์ แล้วจะสามารถทำได้จริง" (นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก) นอกจากนี้วันที่7 เดือนมิถุนายน การท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นออกตัวสนับสนุนทัวร์การท่องเที่ยวกับอาสาสมัครกล่าวว่า "เมื่อจัดทัวร์อาสาสมัครจะสนับสนุนอย่างมาก"
