ที่ญี่ปุ่นมีการเปิดเผยว่ายากูซ่านั้นมีเป็นตัวกลางในการซื้อขายไต ตำรวจเข้าจับกุมชายที่จะทำการปลูกถ่ายไต(มีอาชีพหมอ)และภรรยาของเขา,หัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายไต ,ชายที่ขายไต หญิงที่ปรึกษาเรื่องการแพทย์และชายที่มาฝึกงานด้วย
ตามที่ตำรวจกล่าว ชายที่ขายไตนั้น เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วเขาได้จดทะเบียนเป็นลูกชายบุญธรรมของผู้ป่วย เนื่องจากในญี่ปุ่นหากมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในทางกฎหมายจะสามารถทำการปลูกถ่ายไตได้ และจากการเป็นตัวกลางในการซื้อขายไตนี้ หัวหน้าแก๊งยากูซ่าจะได้ค่าตอบแทน แปดล้านเยน(หรือประมาณสามล้านบาท)
ยากุซ่ารายนี้ทำไปก็เพราะได้รายได้ดี และจะสามารถเข้าไปรวมกับกลุ่มยากุซ่าที่ชื่อสุมิโยชิไก ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่เป็นอันดับสองในสังคมยากุซ่าอีกด้วย คนที่รู้จักยากุซ่ารายนี้กล่าวว่า "เขาเป็นพ่อค้ามากกว่ายากูซ่านะ เขามีธุรกิจในไต้หวันด้วย ในกลุ่มสุมิโยชิไกนั้นมีหัวหน้าแก๊งค์คนเก่าๆ มีความคิดแบบดั้งเดิมเยอะ เขาเลยกลายเป็นเหมือนหัวหน้าแก๊งค์ที่มีความคิดนอกกรอบ เป็นพวกนอกรีตไม่เหมือนคนอื่นๆ"
ยากุซ่ารายนี้ ทำการปลูกถ่ายไตใกล้ๆกับโรงพยาบาลที่เป็นสถานที่ทำงานของผู้ป่วยที่เป็นหมอที่ทำการปลูกถ่าย ดูเหมือนว่าหัวหน้าแก๊งค์ยากุซ่ากับผู้ทำการปลูกถ่ายไตรายนี้รู้จักกันมานานประมาณ20ปีแล้ว ผู้ป่วยรายนี้มีภาวะไตล้มเหลว ในตอนแรกมีการขอร้องยากูซ่าคนอื่นๆในสุมิโยชิไกให้จัดหาผู้บริจาคไตให้แต่ก็เกิดปัญหาเรื่องการเงินขึ้น เลยขอร้องให้หัวหน้าแก๊งค์ยากุซ่าที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ให้หาคนบริจาคไตให้
ทางด้านผู้บริจาคไตที่ขายไตของตัวเองนั้น ได้ขอยืมเงินหลายหมื่นเยน(ประมาณสองหมื่นถึงสามหมื่นบาท)จากหญิงที่ทำอาชีพปรึกษาทางด้านการแพทย์ ซึ่งมีข้อแลกเปลี่ยนจากการยืมเงินนั้นก็คือเขาต้องเป็นผู้บริจาคไต
ตอนนี้ทางตำรวจกำลังตรวจสอบความเกี่ยวข้องระหว่างโรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไตกับหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่าอยู่