ระหว่างวันที่ 19-26 เดือนเมษายน 2554 มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งตายเพราะอาหารเป็นพิษเกิดขึ้นที่ร้านเนื้อย่างหลายสาขา ผู้ตายเพราะอาหารเป็นพิษในครั้งนี้คือ ผู้หญิงวัย 70 ปีที่มีอาการสาหัสจากการกินเนื้อยุคเกะสด ผู้หญิงวัย 40 ปี และเด็กชายวัย 6 ขวบ 2 คน
จากการพบเชื้อโรคในลำไส้ใหญ่ 0-157 และ 0-111 ในเนื้อวัว จึงสันนิษฐานว่า ส่วนหนึ่งของวัตถุดิบติดเชื้อแบคทีเรีย ตอนนี้ร้านค้ากลุ่มนั้นทั้งหมดหยุดกิจการชั่วคราว
「เพราะว่ายุคเกะมีเป็นสินค้ายอดนิยม」วันที่ 2 เดือนพฤษภาคม ประธานบริษัทฟู๊ดส์ ฟอรัสที่มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาเดียวกัน จัดแถลงข่าวขึ้นที่บริษัทซึ่งให้คำอธิบายเหตุผลว่า ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า การบริโภคเนื้อสดเป็นอันตราย แต่ก็ไม่สามารถเลิกขายเนื้อสดได้
วันที่ 5 ตอนบ่าย ประธานบริษัทยอมรับเรื่องผู้ตายคนที่ 4 เพราะอาหารเป็นพิษที่เกิดขึ้น และจัดการแถลงข่าวที่ลานจอดรถของบริษัท กล่าวคำขอโทษว่า "ขออภัยเป็นอย่างสูงต่อผู้ตายและญาติพี่น้องของผู้ตาย ส่วนผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ จะให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะสามารถช่วยเหลือได้"
เนื้อที่กำลังเป็นปัญหานี้มีข้อสงสัยว่าถูกปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียมาก่อนที่ร้านค้าจะซื้อมา ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่
ในคำประกาศชี้แจงคำเตือนต่อลูกค้า เช่น เมื่อเด็กๆ ผู้สูงอายุ และคนที่มีสุขภาพไม่ค่อนดีรับประทานเนื้อสด จะเสี่ยงต่อการเป็นอาหารเป็นพิษมากขึ้น
เรื่องที่ว่า "ถ้าเป็นเนื้อสดที่สดใหม่ก็ไม่เป็นไร" เป็นเรื่องที่ผิดมาก เมื่อติดเชื้อ จะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง มีไข้ติดต่อกันเป็นเวลา 1-7 วัน ลักษณะเด่นคือ เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อโรคที่ทำให้อาหารเป็นพิษอื่นๆ จะใช้เวลานานกว่า จะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยและเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำง่าย และอาหารก็จะทรุดหนักลงเรื่อยๆ
คนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการทานปลาดิบ การต่อต้านเรื่องการทานเนื้อสดจึงน้อย แม้ว่าจะเป็นเนื้อไก่ ผู้บริโภคประมาณ 20% ก็ทานเนื้อไก่สดๆ ไม่ว่าจะที่บ้านหรือร้านอาหาร ทราบจากแบบสอบถามที่คณะกรรมการรักษาความปลอดภัยอาหารจากคณะรัฐมนตรีสอบถามผู้บริโภคทั่วไป 6,000 คน และผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร 500 คน