ในตอนนี้อาหารญี่ปุ่นนั้นได้รับความรักไปทั่วโลก คนไทยก็ชอบอาหารญี่ปุ่นเช่นกัน และก็ได้มีร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นมากมาย ถ้าพูดถึงสิ่งที่เป็นตัวแทนของอาหารญี่ปุ่นละก็คงจะเป็น ปลาดิบ,ซูชิ ,เทมปุระ,สุกี้ยากี้,ชาบูชาบู (สุกี้หม้อไฟของญี่ปุ่น) และในครั้งนี้จะขอแนะนำประวัติของซูชิ
ซูชิที่ได้รับความนิยมในไทย และซูชิที่ทุกคนรู้จักก็คือ เนื้อปลาดิบที่วางลงบนข้าวที่ผสมกับน้ำส้มสายชู สิ่งนี้เรียกว่า"เอโดะมาเอะซูชิ" และ"เอโดะมาเอะซูชิ"ค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์
จุดกำเนิดของซูชิ จะย้อนกลับไปศตวรรษที่ 7 หรือประมาณ 1400 ปีก่อน ในสมัยก่อนหลังจากที่จับปลาน้ำจืดขึ้นมาแล้ว เพื่อที่จะเก็บได้นานขึ้นก็จะเอาเครื่องในออกและหมักด้วยเกลือ วิธีการนี้ไม่ได้มีแค่ในเฉพาะญี่ปุ่นแต่ก็คงจะมีอยู่ทั่วโลก
ที่ญี่ปุ่น เพื่อที่จะเก็บให้อยู่นานขึ้นอย่างง่ายๆก็คือหลังจากที่เอาเครื่องในออกก็จะใส่ข้าวเข้าไป และด้วยการทำแบบนี้ก็สามารถเพิ่มกรดแลคติคที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และก็สามารถยืดเวลาให้ปลาอยู่นานขึ้นได้เป็นเวลาหลายเดือน
ในตอนแรกกรดแลคติคที่ใช้ในการหมักข้าว ก็จะละลายหายไป และก็จะถูกล้างออกไปในตอนที่กินปลา แต่ว่าถ้าเป็นในศตวรรษที่ 15 ในสมัยมุโรมาจิ ก็จะกินข้าวกับปลาก่อน ก่อนที่ข้าวจะละลาย เพราะว่าข้าวเป็นสิ่งที่สำคัญมากในญี่ปุ่น ในการที่จะทิ้งไปละก็เป็นอะไรที่ไม่อยากทำ และซูชิที่เรียกว่า "นามาเระ"ก็ยังคงมีอยู่ในชื่อ "ฟูนะซูชิ" ที่จังหวัดชิกะ
ซูชิในตอนนี้มีรูปร่างหน้าตาที่ใกล้เคียงกับศตวรรษที่ 17และช่วงต้นของสมัยเอโดะ ซึ่งในตอนนี้เป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ที่ยิ่งโหญ่ แล้วก็เพื่อที่จะให้ปลาและข้าวอยู่ได้นานขึ้น ก็คือจะไม่ใช้การหมักแต่เป็นการใช้ประโยชน์จากการใส่น้ำส้มสายชูเข้าไป ในการใช้น้ำส้มสายชูจะทำให้ทำซูชิได้เร็วขึ้น และนอกจากนั้นยังทำให้ซูชิมีรสชาติอร่อยมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ซูชิกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยม
ในสมัยเอโดะ คือที่เอะโดะเมืองหลวงของญี่ปุ่น(โตเกียวในปัจจุบัน) ในตอนค่ำก็จะมีร้านแผงลอยที่ขายซูชิอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วก็จะขายซูชิที่หั่นปลาเป็นชิ้นเล็กๆแล้วก็วางลงบนข้าวที่ผสมน้ำส้มสายชูเข้าไป นี่คือจุดเริ่มต้นของ "เอโดะมาเอะซูชิ"ในปัจจุบัน และเวลานี้ซูชิได้ถูกกินเป็นทั้งอาหารว่างและอาหารจานหลัก หลังจากที่ดื่มเหล้าหรือตอนที่ท้องว่างตอนกลางดึก ก็เลือกที่จะทานเล็กน้อยได้
แล้วก็ปลาที่ใช้ทำซูชิ(เรียกว่าวัตถุดิบในการทำอาหาร)ก็เป็นการนำไปหมักกับน้ำส้มสายชู หรือต้ม หรือว่านำไปย่าง ส่วนใหญ่จะไม่มีวัตถุดิบในการทำอาหารที่สดมา และซูชิที่มีในปัจจุบันก็อย่างเช่น ซูชิหน้าปลาไหล, ซูชิหน้าปลาซาบะ, ซูชิเต้าหู้ทอด
การใช้วัตถุดิบทำอาหารที่สดๆมีมากกว่า100ปีแล้ว การที่มีน้ำแข็งขาย จึงทำให้ปลาสดๆอยู่ได้นานขึ้น นอกจากนั้น การแพร่หลายของตู้เย็นทำให้มีประโยชน์ในการเก็บรักษาวัตถุดิบในการทำอาหารที่สด หลังจากนั้น ในสมัยเอโดะก็ได้แพร่ขยายเป็นวงกว้างในทั้งญี่ปุ่น การใช้วัตถุดิบที่สดในการทำซูชิในปัจจุบันที่ไม่ว่าเมื่อไรก็สามารถทานได้ ก็เพราะว่าการแพร่หลายของการมีไฟฟ้าและตู้เย็น By たいすけ