จากโตเกียวนั่งรถหรือโดยนั่งรถไฟเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะมีนิกโก้ ปราสาท Toushogu ที่ได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์โลกยูเนสโก และใกล้ๆกันนั้น ก็ได้มีการสร้างเมืองจำลองในสมัยเอโดะ คือหมูบ้านนิกโก้เอโดะ (เอโดะ วอนเดอร์แลนด์) ซึ่งเป็นการนำกลับมาสร้างใหม่เป็นเมืองในสมัยของเอโดะที่ย้อนกลับไป 500ปีก่อน และอาคารกว่า100หลังก็ได้นำมาจากของจริงทั้งหมด
ปราสาท Toushoguคือ อยู่ในสมัยโทกุกาว่า อิเอยาทสึ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสมัยเอโดะ และที่ใกล้ๆกันนั้นก็มีการก่อสร้างหมู่บ้านเอโดะขึ้น และปีนี้ก็เป็นปีที่ 25
คุณ Murayama Yukaผู้ที่ทำงานเป็นตัวแทนจากประเทศไทยของหมู่บ้านนิกโก้เอโดะได้แนะนำว่า“สามารถมองเห็นวิว4ฤดูของเอโดะได้” ภายในสถานที่มีต้นซากุระที่ได้ถูกปลูกไว้ และพอถึงฤดูใบไม้ผลิดอกซากุระก็จะบานเต็มที่ พอถึงฤดูร้อน ในทุกๆวันก็จะมีการแสดงแบกศาลเจ้าขนาดเล็ก และคึกคักเป็นอย่างมาก ต่อมาฤดูใบไม้ร่วง ก็จะเพลิดพลินกับใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นเป็นสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์และละคร
เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะไม่เกิดความเบื่อหน่ายกับโชว์ ในทุกวันก็จะมีระยะเวลาการโชว์กำหนดเอาไว้ เป็นธีมโออิรัง , นินจา, ซามูไรเป็นต้น และมีห้องเรียนนินจาไว้สำหรับเด็ก จากที่คุณ Murayamaได้กล่าวไว้นั้น พนักงานทุกคนจะสวมใส่ชุดสมัยเอโดะ เสมือนได้กลับไปในยุคที่มีซามูไรใช้ดาบในการรบ ในช่วงการทานอาหาร และห้องชงชาก็จำลองห้องขึ้นมาให้เหมือนสมัยนั้น นอกจากนั้นยังจะได้รับการบริการราวกับแขกวีไอพี และท่านยังได้สวมชุดเดินอยู่ในเมือง
“นักท่องเที่ยวก็ยังจะสามารถสวมชุดกิโมโนเหมือนคนในสมัยเอโดะ สิ่งที่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย คือการเช่าชุดคนในราชวงศ์มาสวมใส ใน1วันที่ได้สวมชุดนี้เดินในเมืองความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปอยู่ในสมัยเอโดะจริงๆ”
นิกโก้ ได้ถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลก ยิ่งกว่านั้นยังรอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ บ่อน้ำพุร้อน ผลไม้ที่แสนอร่อย ทำให้มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวมากมาย ในช่วงสงกรานต์ของไทยก็มีผู้เข้าชมกว่า 2,000คน
คอลัมน์ที่เขียนโดยนักเรียนที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่น
Tweet
